มาใช้ Windows Subsystem for Linux กันเถอะ

Published in

mixedmuffin

2 min readAug 7, 2018

หลังจาก Windows 10 Fall Creators Update (FCU) ฟีเจอร์ Windows Subsystem for Linux (WSL) ก็ได้ถูกรวมเข้ากับ Windows โดยสมบูรณ์แล้ว

Windows Subsystem for Linux พ้นสถานะ Beta เป็นส่วนหนึ่งของ Windows 10 อย่างสมบูรณ์ | Blognone

สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows Subsystem for Linux (WSL) พ้นสถานะ Beta เรียบร้อยแล้ว…

www.blognone.com

วันนี้ได้พี่นาทมาแนะนำให้ลองใช้ดูเลยจดวิธีลงไว้ซะหน่อยกันลืม

เตรียมพร้อมก่อนลง

ก่อนใช้งานต้องเข้าไปเปิดฟีเจอร์นี้ใน PowerShell ก่อน โดยต้องเปิดแบบ as Administrator เท่านั้น

Enable-WindowsOptionalFeature -Online -FeatureName Microsoft-Windows-Subsystem-Linux

2. รีสตาร์ทเครื่อง 1 ครั้ง

ลง Linux Distribution

วิธีลงง่ายที่สุดคือลงจาก Microsoft Store โดยเช็คก่อนว่าเครื่องเราเป็น Windows build 16215 หรือใหม่กว่า

เปิด Microsoft Store และเลือก Linux distro ที่ชอบ

2. ในหน้า distro ตอนที่เขียนใช้ Ubuntu 18.04 แล้วกดปุ่ม Get

ดูวิธีลงแบบละเอียดได้ที่นี่

Install Windows Subystem for Linux (WSL) on on Windows 10

Installation instructions for the Windows Subsystem for Linux on Windows 10.

docs.microsoft.com

3. ก่อนใช้งานก็ setup user และ password ของ linux ให้เรียบร้อย

4. จัดการ update & upgrade ให้ distro’s packages ด้วยคำสั่ง

sudo apt update && sudo apt upgrade

ในกรณีใช้งานผ่าน proxy ต้องไป setup proxy ของ apt ที่

sudo vim /etc/apt/apt.conf

โดยไปเพิ่มข้อความดังนี้

Acquire::http::proxy "http://<proxy_host>:<proxy_port>/"; 
Acquire::https::proxy "http://<proxy_host>:<proxy_port>/";

อ่านละเอียดๆได้ที่นี้

https://docs.microsoft.com/en-us/windows/wsl/initialize-distro

สร้าง Dev Folder

เนื่องจาก WSL จะสร้าง path home ~/ ไว้ลึกมาก เช่น

/home/muffin

อาจอยู่ใน

%USERPROFILE%\AppData\Local\Packages\CanonicalGroupLimited.Ubuntu18.04onWindows_79rhkp1fndgsc\LocalState\rootfs\home\muffin

จึงแนะนำให้สร้าง alias สำหรับ path สำหรับใช้ dev จะดีกว่า โดยไปที่

vim ~/.bashrc

ถ้า path สำหรับ dev ของเราอยู่ที่ z:\wsl\dev ในไฟล์ตรง alias ไปเพิ่มดังนี้

alias dev=’cd /mnt/z/wsl/dev’

Reload bash ด้วยคำสั่ง

source ~/.bashrc

เพียงเท่านี้แต่พิมพ์ว่า dev ก็จะไป path ที่ต้องการได้ทันที

ทดลองใช้งาน

ทดลองลง python

ใช้คำสั่ง

sudo apt-get install python3

ทดสอบด้วยการใช้คำสั่ง

python3

ลง pip สำหรับจัดการ package ของ python

sudo pip3 install --upgrade pip --proxy <proxy_host>:<proxy_port>

หรือใช้ command นี้สำหรับ Windows

python -m pip install --upgrade pip --proxy <proxy_host>:<proxy_port>

ลง virtualenv

sudo pip install virtualenv --proxy <proxy_host>:<proxy_port>

ลองใช้ virtualenv โดยเข้าไปที่ path ที่ต้องการ

virtualenv env
source env/bin/activate
which python
which pip
deactivate

เพียงเท่านี้ก็จะใช้ linux ได้อย่างพินๆล่ะ

แถม 1

กรณีอยากใช้ X11 อย่าลืม export ตามนี้

export DISPLAY=:0.0

หรือถ้าจะให้สะดวกก็เพิ่ม บรรทัดนี้ไปในไฟล์ ~/.bashrc ด้วย